วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

Always รักแท้นั้นมีจริงหรือ



นี่เราทำไมใจสะเงาะสะแงะขนาดนี้เนี่ย...
รู้ตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลออกมาอีกแล้ว ก็กระซิบบอกตัวเองแล้วว่า
...ก็แค่หนังเรื่องหนึ่ง


น้องที่ทำหนังสือปาจารยสาร บอกว่า ภาคนี้ทำดีกว่าภาคแรกเยอะมาก
"พี่น่าจะไปดูนะ เพราะพี่ก็ดูภาคแรกมาแล้ว ภาคนี้ละเมียดเรื่องอารมณ์มาก"


หนังเล่นอารมณ์กับคนดูมากๆ
เป็นหนังย้อนยุคที่ทำให้เราหวลรำลึกถึงความงดงาม
ของความรู้สึกเก่าๆที่ขาดหายไป
ผมนั่งขอบตาชื้นตั้งแต่หนังฉายไปไม่เท่าไหร่
"ดีจัง ที่แถวที่เรานั่งอยู่ไม่มีใคร ไม่งั้นอายน่าดู"


แต่ตอนสุดท้ายใกล้จบนี่สิ...โดนเข้าจังๆ
ริวโนะสุเกะ นักเขียนหนุ่มผู้มีความฝันอันงดงาม
แต่ผิดหวังทุกอย่างในชีวิตอย่างสิ้นเชิง
ไม่เคยประสบความสำเร็จอะไรเลย
เด็กน้อย จุนโนะสุเกะ ที่อยู่ด้วยกับตนกำลังจะจากไป
ฮิโรมิ นางรำ หญิงอันเป็นที่รัก เป็นทุกอย่างที่เขามี
หญิงอันเป็นพลังให้เขาได้เขียนเรื่องสั้นเข้าประกวด
ก็กำลังไปใช้ชีวิตอยู่กับเศรษฐีผู้ร่ำรวย


ริวโนะสเกะ นักเขียนหนุ่มผู้มีความฝันอันงดงาม
ผู้กินอุดมคติ...
...ตกอับ...ยากไร้...สาวงามอันเป็นที่รัก ไปแต่งงานกับคนรวย
แมร่ง....ทำไมมันคล้ายกรูนักว่ะ(นึกในใจ)
นึกถึงตนเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
หญิงสาวในอุดมคติ มีความฝันและทำทุกอย่างเหมือนกัน
เธอเป็นคนเก่ง ยึดมั่นในอุดมการณ์ เป็นเภสัชกรสาวที่ดี
ส่วนเรา คล้ายริวโนะสุเกะทุกอย่าง เร่ร่อน ทำงานอย่างที่ตนเองรัก
ยึดมั่นอุดมคติ ทำในสิ่งที่ฝันตลอดมา
และ ตกอับ...จน...ไม่มีอาชีพที่มั่นคง...
ไม่มีตำแหน่งทางสังคมที่เชิดหน้าชูตา
แล้วเธอก็ไปแต่งงานกับหนุ่มวิศวะ ผู้ร่ำรวย มีบริษัทของตนเอง
ให้ความมั่นคงกับชีวิตของเธอได้
เธอไม่ผิดหรอก ผิดที่เราเป็นอย่างที่เป็น


กว่าจะทำใจให้หายเจ็บกับเธอคนนั้นได้ ใช้เวลากว่า 7 ปี
7 ปี ที่แทบจะไม่มีวันใดเลยที่เราไม่คิดถึงเธอ
และเธอ...ผู้ทำให้ผมไม่กล้าจะรักใครอีกเลย
เจียมเนื้อ เจียมตัว เก็บความรู้สึกทุกอย่าง ไม่พูดออกมา
สิ่งที่ทำได้ก็คือความหว่งใยกับหญิงสาวที่เผอิญเรารู้สึกดีๆด้วย
...ก็แค่นั้น
เพราะรู้ตัวดี...
กลัวเจ็บ..


น้ำตาทะลักออกมา เหมือนทำนบเขื่อนแตก...
สารภาพตามตรงแบบไม่อายใคร...ร้องไห้จริงๆ
เพราะ 2-3 วลีสุดท้าย ที่ริวโนะสุเกะพูดออกมาอย่างไม่อาย
2-3 วลีสุดท้ายที่พูดกับฮิโรมิ นางรำ หญิงอันเป็นที่ตนรัก
จะอายไปทำไมละ เพราะชายหนุ่มสูญสิ้นทุกอย่างแล้วนี่
2-3 วลีสุดท้าย คือ ความในใจทั้งหมดที่ผมเก็บงำไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมาของชีวิต
ไม่กล้าแม้แต่จะบอกกับใคร

ต่างก็ตรงที่ริวโนะสุเกะ ได้หญิงสาวกลับมา
เพราะเธอก็รักเขาอย่างแท้จริง
เป็นรักแท้ ที่น่าชื่นชม รักแท้เช่นนี้มีจริงเหรอ

ตอนจบของหนังนั้น
เป็นภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก
จะไม่สวยงามได้อย่างไร...
ก็ในเมื่อเราได้ยืนดูพระอาทิตย์ตกสีเปลือกมังคุดสุก
ร่วมกับหญิงสาวที่ตนเองรัก
รักแท้เช่นนี้มีจริงเหรอ


ฝันแห่งรักแท้ในอุดมคติของหนุ่มสาวนั้น
หาเป็นจริงไม่ในโลกของความเป็นจริง
เรารับรู้ได้ว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน


ทว่าสำหรับผมนั้น ก็ยังยืนยันเฉกเช่นเดิมว่า
...ทุกโมงยาม ผมฝันถึงรักของหนุ่มสาวในอุดมคติ
รักเพื่อเกื้อกูลย์ เพื่อเป็นเพื่อน เสริมกันและกัน
แม้ไม่มีจริงในโลกใบนี้
แต่ผมก็ฝันเช่นนั้น...:)

ไม่มีความคิดเห็น: