วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2551

อาภรณ์แห่งรัก...


......ฉันฟื้นขึ้นมาด้วยอาภรณ์แห่งรักหลังหลับไหลอย่างยาวนาน
ด้วยท่ามกลางบทบรรเลงอันอ่อนหวาน
ละเมออยู่ในห้วงฝันอันดื่มด่ำแลพร่ำเพ้อถึงรสจุมพิตอันอ่อนโยน
......ลีลาแห่งรักย่างกรายแผ่วเบายิ่งกว่าลมหนาว
ทว่าเร้นลับกว่ามนตราที่คลี่ห่มมวลบุปผา
เจ้าลวงฉันให้ชะล่าใจในสัมพันธ์สามัญ
ซึ่งพลันอบอุ่นจู่โจมใจ……… ดุจแสงแห่งตะวันฉายฉานยามสายหมอกสลาย
.......เธอรับรู้หรือไม่ว่า
เหล่านี้เป็นความลับดุจเดียวกับสายธารเรียกร้องดินแดนอันพิสุทธิ์งดงามเ
พื่อซอนเซาะสู่ท้องทะเลน้ำเงินคราม
โมงยามของห้วงถวังค์ฝันและมีชีวิตอยู่ในห้วงรักนั้นสั่นสะท้าน
การสัมผัสมือเพียงครั้ง หรือเอ่ยชื่ออย่างแผ่วเบานั้น
ดั่งมนต์สะกดให้น้ำตาฉันไหลรินได้
รักเอย......
เธอเปรียบดั่งนกน้อยในพุ่มไม้
ส่งเสียงหวานลวงฉันให้สำเนียกว่ารู้จัก
แต่แล้วเสียงนั้นกลับแปรเปลี่ยน
มวลวิหคช่างมากมายเกินคณานับ
ทำดวงตาฉันฉงนฉงาย
ทำดวงใจฉันหวาดไหว....ร้าวราน
รักเอย....
เธอคล้ายดั่งเสียงคร่ำครวญของหริ่งเรไรแห่งราตรีที่ม่านฟ้าไร้ดาว
หวลให้อาวรณ์เหลือจะกล่าว.........
กระนั้นกลับมิได้หยุดยั้งบทบรรเลงโศลกแห่งตน
เพียงแผ่วจางลงยามดาราแปรเปลี่ยนเป็นฝ้าจาง
และยังประดุจดั่งน้ำค้างบริสุทธิ์.....
ซึ่งหยาดหยดลงยังดวงตาของดอกไม้
ทำให้ฉันฟื้นจากภวังค์และถูกสะกดด้วยมนตรา
ในความเยือกเย็นเงียบสงบแห่งรุ่งอรุณ
รักเอย.......
อันใดหนอจึงมิใช่เพียงฉันและเธอ
หัวใจโดดเดี่ยวและเหงาในห้วงอารมณ์
ใยจึงเรียกร้องใครสักคน
คะนึงใฝ่หาแต่เธอ
ฉันเฝ้าตั้งคำถามสอบสวนตนเองเพียงลำพัง
ในรักนั้น มีหลากหลายลีลาที่ร่ายรำ ขอให้เธอรับรู้ว่าฉันห่วงใย
อยากเห็นเธอเข้มแข็งนะคนดี เข้มแข็งนะจ้ะ

ไม่มีความคิดเห็น: